Powered By Blogger

13/06/2008

She says: Chapter 8

... ว่ากันว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย
... ว่ากันว่าความรักทำให้คนยิ้มได้
... ว่ากันว่าความรักทำให้คนตาบอด
... ว่ากันว่าต้องไขว่คว้า พยายามจึงได้มาซึ่งความรัก
... ว่ากันว่าซักวันนึง ความรักจะหาเราจนเจอ
... ว่ากันว่ากว่าจะถึงวันนั้นคงอีกนานทีเดียว
... ว่ากันว่าชีวิตเราถูกกำหนดไว้แล้วโดยโชคชะตา
... ว่ากันว่าโชคชะตานั้นแท้จริงเราต่างหากที่เป็นผู้กำหนด
... ว่ากันว่าโลกนี้ช่างโหดร้าย
... ว่ากันว่าไม่ใช่โลกที่โหดร้าย ทว่าเป็นมนุษย์เราเองต่างหาก
... ว่ากันว่าคนบางคนคงรอเราอยู่ที่ไหนซักแห่ง
... ว่ากันว่าคนบางคนก็อาจไม่เคยรู้มาก่อนว่ายังมีเราอยู่ในโลกใบนี้อีกคน
... ว่ากันว่าความเหงาคือเพื่อนแท้
... ว่ากันว่าแม้แต่เพื่อนแท้ก็ยังไม่จีรัง
... ว่ากันว่าความรักเป็นสิ่งจำเป็นในการมีชีวิต เป็นเสมือนอากาศที่เราต้องหายใจ
... ว่ากันว่าอากาศก็อาจทำให้เราไม่สบายได้ ถ้ามันปนเปื้อนพิษมากเกินไป
... ว่ากันว่าความรักจับต้องไม่ได้ ดั่งสายลม
... ว่ากันว่าสายลมนั้นเราจับต้องไม่ได้ แต่เรารับรู้ถึงมันได้เช่นกันกับความรัก
... ว่ากันว่านี่เป็นวลางาน และฉันก็คงต้องกลับไปทำมันให้เสร็จแล้วล่ะ
... ว่ากันว่างานเป็นสิ่งที่ทำไม่มีวันเสร็จ
... ว่ากันว่าถ้าฉันยังไม่เลิกพิมพ์ ฉันเองนั่นแหละที่จะเสร็จแน่
... ว่ากันว่า น่ะนะ

05/06/2008

She says: Chapter 7














Now I never meant,To do you wrong
That's what I came here to say.
But if I was wrong,Then I'm sorry
I don't let it stand in our way.
As my head just aches,When I think of
The things that I shouldn't have done.
But, life is for living,We all know
And I don't wanna live it alone.
Sing,Ah, ah, oh,Sing,Ah, ah, oh...
And just think,Ah, ah, oh...
(Life is for living: Coldplay)
บางครั้งมันก็ยากนะที่จะตอบคำถามเพียงไม่กี่คำถามกับตัวเองให้ได้ว่าจริงๆแล้วตัวเองนั้นต้องการอะไร? หรือเรากำลังจะไปที่ใดกันแน่? ไม่ใช่ที่นี่... ก็คงจะเป็นที่ใดซักที่บนโลกใบนี้ล่ะมั้ง ความเหงาที่เข้ามาในบางเวลา แล้วก็จากไปดั่งสายลม ซักพักก็จะกลับหมุนเวียนมาใหม่ เช่นเดียวกับความสุข ต่างกันที่ความรู้สึกเท่านั้น แปลกดีที่เวลามีเท่ากัน แต่ใยความเหงาจึงพำนักพักพิงอยู่กับเรานานกว่านะ... เฮ้อ เค้าว่าถอนหายใจครั้งนึงอายุจะสั้นไปหนึ่งปี งั้นฉันจะหัวเราะชดเชยให้ทีหลังแล้วกันนะ ...

02/06/2008

She says: Chapter 6



"You are my sunshine my only sunshine


You make me happy when skies are grey


You'll never know dear how much I love you


So please don't take my sunshine away..."

เพลงนี้อยู่ในหนัง "Penelopy" ตอนที่เพเนโลพีถามแมกซ์ว่าเขาเล่นดนตรีอะไรได้บ้าง จากนั้นนางเอกก็เตรียมวงดนตรีมาให้ แมกซ์เองก็ดูท่าทางดีใช้ได้เมื่ออยู่กับเครื่องดนตรี ซึ่งผลออกมาก็คือเขามั่วได้เป็นธรรมชาติและน่ารักมากๆ ก็คุณพี่เล่นลองเครื่องดนตรีมันทุกชิ้นตั้งแต่สิ่งที่คล้ายๆเชลโล่ กีตาร์ แซกโซโฟน ไปจนถึงกลอง...แล้วพี่แกก็แหกปากร้อง ...you are my sunshine my only sunshine ... น่ารักชะมัด

แต่ที่ทำให้เรื่องนี้น่าประทับใจอีกอย่างก็ตรงที่ตัวละครในเรื่องนี้ต่างก็มีปมกันทั้งนั้น คือมีที่มาที่ไปบอกเราให้รู้ว่าทำไมเขาถึงเป็นอย่างนั้น เธอเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่กล่าวอ้างขึ้นมาลอยๆ อย่างในบทของแมกซ์นั้น แรกๆ อาจจะเห็นว่าเขาเห็นแก่เงิน เป็นคนติดพนัน ปล่อยชีวิตผ่านไปวันๆ ไม่มีสาระ เป็นloserดีๆนี่เอง แต่พอได้พบกับเพเนโลพีความคิดที่มีต่อการดำเนินชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป เขายอมกลับไปหาเพื่อนเก่าที่เคยร่วมวงดนตรีด้วยกัน ยอมโดนเพื่อนต่อว่าแรงๆ ในความไร้ความรับผิดชอบในอดีต ทีนี้ก็ได้รู้แล้วว่าพระเอกน่ะเล่นเปียโนได้ และที่แกล้งทำเป็นเล่นไม่เป็นต่อหน้านางเอกนั้น ก็เพื่อหลอกล่อให้นางเอกเราออกมาปรากฏตัวนั่นเอง ฉากก่อนหน้านั้นเป็นสภาพอพาร์ตเม็นท์หลังเก่าของแมกซ์ซึ่งมีเปียโนเก่าๆ ตั้งอยู่ ณ มุมหนึ่งของห้อง ดูไม่มีความหมายอะไรแต่ตอนที่กล้องแพนไปที่เปียโนหลังนั้น มันกระทบใจชะมัด (โอ้...โนวววว จะร้องไห้ง่ะ) แล้วพระเอกก็กลับตัวหันมาทำมาหากิน แม้จะเป็นงานเล็กๆ อย่างคนทำความสะอาดบาร์ก็ตาม คนเรามีทางเลือกเสมอ อยู่ที่ว่าจะทำ หรือไม่ทำเท่านั้นเอง

you are my sunshine my only sunshine...

ความรักเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง แล้วแมกซ์ก็รู้ตัวแล้วว่าใครคือ Sunshine สำหรับชีวิตเขาต่อจากนี้แล้วคุณล่ะ...?