Powered By Blogger

28/07/2009

Follow the light...


Follow The Light...
(Travis)
Nobody really knows

Where they're supposed to go
Hiding behind a wall
Afraid that they'll lose it all

But it's alright
Just follow the light
And don't be afraid of the dark
In the moonlight
You'll dance till you fall
And always be here in my heart...
หลายวันมานี้ฟังแต่เพลงของ Travis ฟังเพราะคิดถึงเพราะอยากฟังเพลงที่ฟังแล้วสบายใจ แต่ว่านะพอลองดูเนื้อเพลงกับสิ่งที่สื่อมากลับมีอะไรให้คิดมากมาย เป็นความหมายดีๆ ของความรัก ความเป็นไปของชีวิต ฟังแล้วมีกำลังใจดีนะ รู้สึกได้เพิ่มพลังชีวิต รู้สึกดีจริงๆ ฟังแล้วยิ้มได้แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ดูยากสำหรับชีวิต บางครั้งอะไรๆ ที่เราคิดมากไป คิดวนคิดเวียน สุดท้ายก็ยังไม่ไปไหน ทว่าทางแก้ปัญหาอาจอยู่ไม่ไกลอย่างที่คิด อยากให้ใครบางคนที่กำลังเจ็บปวดกับชีวิต กับเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ได้หันกลับมาฟังเพลงของวงๆ นี้บ้างจัง เพราะของเค้าดีมั่กมาก...จริงนะ:)

21/07/2009

สิ่งที่ทำให้อ่อนไหว

เพราะอารมณ์แปรปรวนบ่อย...ในช่วงก่อนวันนั้นของเดือน
สังเกตไหมว่าตัวเราจะอ่อนไหวเป็นพิเศษ เจออะไรนิดอะไรหน่อยที่มากระทบความรู้สึกก็จะเกิดอาการซึ้ง หรือเศร้าจนบ่อน้ำตารื้น แต่บางเดือนก็แปลกออกไปประมาณว่าบ้าพลัง ไม่ก็อารมณ์ออกจะเกินๆ เช่น หัวเราะแบบบ้าพลังเกินไป หรือจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ไม่ใคร่จะทำอย่างทำความสะอาดห้องงี้ ออกจะเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงทั่วไป (หรือเปล่านะ?) หรือว่าจริงๆ ตัวเราเป็นยังงี้ก็ไม่รู้ (ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
ขี้สงสาร... จริงนะไม่ได้ชมตัวเอง โดยเฉพาะกับเรื่องที่ทำให้อ่อนไหวอย่าง...ความรัก ไม่ว่าจะเรื่องจริงหรือนิยายก็สงสารได้เหมือนกัน (พวกจินตนาการสูงสินะ) ถ้าอยากให้เราน้ำตาคลอซึ้งล่ะก็ ง่ายมากแค่เล่าเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง หรือความคลาดกันเพราะเวลา เพราะเหตุการณ์ของคู่ใดๆ ก็ตาม ก็บอกแล้วไงว่าเราน่ะขี้สงสาร โดยเฉพาะกับผู้ชาย (ที่ดีเท่านั้นนะ) ก็แหมฉันเป็นผู้หญิงนี่นะ

13/07/2009

The city i'm in love...with




Venus & David


เนื่องมาจากนิยายเล่มนึงที่ได้มาจากร้านหนังสือมือสองเมื่อสัปดาห์ก่อน "วีนัสกับเดวิด" ตอนแรกหลงรักแค่เพียงหน้าปกเพราะที่ร้านเค้าห่อพลาสติกเลยแอบดูข้างในไม่ได้ หน้าปกนั้นเป็นภาพวาดสีน้ำเมือง ๆ นึงในประเทศอิตาลี และมีแสตมป์2ดวง ที่เป็นรูปDavid และ Venus วางทะแยงอยู่มุมภาพด้านขวาบน ที่รู้ว่าเป็นประเทศนี้ก็เพราะชื่อบนแสตมป์เค้าพิมพ์คำว่า "Italia-Firenze" น่ะ ความชอบเพิ่มมากขึ้นตามหน้าหนังสือที่เปิดอ่านไปเรื่อย ๆ ผ่านไป 5 หน้าพอรู้ที่มาที่ไปของเรื่องก็เริ่มยิ้มเล็กยิ้มน้อยคนเดียว ใครมาเห็นตอนเราอ่านหนังสือเวลานั้น คงคิดว่าเราเป็นบ้าแน่ ๆ อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนไปเที่ยวกับเพื่อนเลย นอกจากนั้นยังได้แอบอมยิ้มเล็ก ๆ กับเรื่องราวของคู่พระนางที่เถียงกันได้น่ารักน่าหยิก เวลาหวานก็หวานซะ...จนเราหุบยิ้มไม่ได้ อ่านจบก็ยังยิ้มในใจ คิดว่าถ้ามีตังค์ซักก้อนจะหอบผ้าหอบผ่อนบินไป Florence เลยทีเดียว...อยากไปจัง ตกหลุมรักซะแล้ว